สวัสดีครับ วันนี้ Daddy – Gadget จะพาไปชมรีวิว Road Trip เชียงใหม่ – ปาย 5 วัน 4 คืน ที่ผมกับภรรยาและลูก ๆ ไปกันมา เมื่อวันที่ 12 – 16 กุมภาพันธ์ 2565 ครับ ต้องบอกว่าแรงบันดาลใจในการไปเที่ยวเชียงใหม่ – ปาย รอบนี้ เกิดจากช่วงนึงผมฟังเพลงวัชราวลีบน YouTube บ่อยมาก และเห็นพี่ ๆ เค้าไปร้องเพลงในบรรยากาศที่อบอุ่น ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม และส่วนใหญ่สถานที่นั้น ๆ อยู่ที่ภาคเหนือ ผมก็เลยตัดสินใจชวนภรรยาและลูก ๆ ไปเที่ยวด้วยกันครับ
แต่เนื่องจากครอบครัวเรามีเด็กเล็ก ลูกสาวคนโตยังไม่ถึง 2 ขวบเต็ม การเดินทางขึ้นเขาไปปายก็จำเป็นที่ต้องมี Car Seat คิดไปคิดมา เลยตัดสินใจกับภรรยาว่าจะขับรถไปกันเอง ก่อนไปก็มีการวางแผนกันคร่าว ๆ ก็ไม่ได้คิดว่าจะไกลเท่าไหร่ แต่พอไปจริง ๆ แล้วโคตรไกล ! ฮา ฮา ฮา แต่ก็สนุกมากๆครับ วันนี้ผมเปิดเว็บไซต์ https://www.daddy-gadget.com/ เป็นของตัวเอง มีโซนของ Travel ก็เลยเอาเจ้า Trip นี้แหละ เป็นตัวเปิดบทความ
ข้อมูลทริป Road Trip กรุงเทพ – เชียงใหม่ – ปาย 5 วัน 4 คืน
เส้นทางขาไป กรุงเทพ – เชียงใหม่
ภาพรวมขาไปผมออกจากกรุงเทพตั้งแต่ 6:44 AM ครับ ถึงเชียงใหม่ราว ๆ 5:00 PM ก็เป็นการขับรถไกลกว่า 700 km ครั้งแรก ก็ขับไปเรื่อย ๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไรครับ ก็มี 100 – 120 km/h ต้องบอกว่าถนนหนทางดีมาก ๆ ขับกันเพลินจริง ๆ ผมมีแวะกินข้าวที่กำแพงเพชร ใช้เวลากินข้าวราว ๆ 1 ชั่วโมงเศษ เดี๋ยวเราลองไปเจาะดูรายละเอียดกันครับ
ซึ่งผมจะแบ่งเป็น 3 ช่วงแบบนี้ครับ
- กรุงเทพ – นครสวรรค์ ระยะทาง 330 km ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 45 นาที โดยประมาณ
- นครสวรรค์ – กำแพงเพชร ระยะทาง 131 km ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 46 นาที โดยประมาณ แวะทานข้าวกลางวันที่ Cha Kang Rao Noodle ครับ ^=^
- กำแพงเพชร – เชียงใหม่ ระยะทาง 335.8 km ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 45 นาที โดยประมาณ
Day 1 : ถึงเชียงใหม่ 5 โมงเย็น พักผ่อนในโรงแรมก่อนตื่นเช้าขึ้นไปปาย
สำหรับที่พักคืนแรก เรานอนกันที่ SYN Boutique Hotel ก็เป็นโรงแรมที่เราจะนอนคืนที่ 4 ด้วยก่อนกลับกรุงเทพ ต้องบอกว่า ครอบครัวเรา enjoy กับโรงแรมนี้มากโดยเฉพาะผม ในห้องนอนสะอาด ตกแต่งในโทนสีขาว ที่นอนนุ่มฟู…หมอนนุ่มนอนสบาย แถมมีอ่างอาบน้ำขนาดกำลังดี ลูกก็เล่นน้ำในห้องได้ เรียกได้ว่าขับรถมาไกลกว่า 700 km ได้นอนพักโรงแรมดี ๆ แบบนี้ รู้สึกผ่อนคลายมาก ๆ ครับ แต่วันแรกที่เข้าพักเสียดายนิดหน่อย สระว่ายน้ำส่วนกลางน้ำเย็นมาก จะรอเล่นตอนบ่ายของเช้าวันถัดมาก็ไม่ได้ เพราะเราต้องรีบขึ้นไปปาย ได้แต่บอกลูกสาวว่า ไว้เดี๋ยวเรากลับมาเล่นในอีก 2 วันนะ
- โรงแรม : SYN Boutique Hotel
- Room Type : Serene white double room
- Check in – Check out 24 hrs
Day 2 : ขึ้นไปปาย กินข้าวมันไก่โบราณ เข้าที่พัก และไปถนนคนเดินปาย
ก็เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันครับที่ผมขับรถจากเชียงใหม่ไปปาย ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะโค้งหนักหนาอะไรมาก แต่พอขับจริงก็มีมึน ๆ เหมือนกันครับ ถึงขั้นต้องจอดรถแวะพักกลางทางที่สถานีอ้วกห้วยน้ำดัง พอมาถึงตรงนี้น่าจะราว ๆ ครึ่งทางได้ วิวระหว่างทางสวยมาก ตรงจุดพักตรงนี้วิวก็ดีครับ มองไปไกลสุดลูกหูลูกตาจริง ๆ
หลังจากเดินทางขึ้นเขามาเป็นระยะทาง 112 km เราก็ถึง อ.ปาย ซักที ! ผมใช้เวลาขับรถอยู่ราว 3 ชั่วโมง 19 นาที ใช่ครับ ! 3 ชั่วโมง 19 นาที !!!
- เชียงใหม่ – ปาย ระยะทาง 112 km ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 19 นาที โดยประมาณ
พอเราถึงปาย ราว ๆ 2:45 PM ก็เปิดหาเว็บรีวิวอาหารทั่วไป ก็เจอร้านสำนักจอมยุทธ์ข้าวมันไก่โบราณ รสชาติต้องบอกว่า อร่อยใช้ได้ครับ แต่ขอติเรื่องอาหารเย็นชืดไปหน่อย ก็เข้าใจว่าเรามากันสาย กว่าจะถึงก็เกือบบ่าย 3 แล้ว แต่จริงๆก็น่าจะอุ่นกว่านี้สักหน่อยนะครับ ฮา ๆ เราไม่ได้ต้องการดิสเครดิต แต่ติเพื่อก่อนะครับ รอบหน้าเรากลับไปปาย เราก็จะไปซ้ำอีกครับร้านนี้
หลังจากกินข้าวมันไก่เสร็จ เราก็เข้าที่พัก โดยที่ปาย เราพักกันที่ Puripai Villa 2 คืนครับ เราพักกันแบบ Deluxe room ครับ เพราะมากันแค่ 3 คน เลยไม่ได้จองมาแบบ Villa บรรยากาศในห้อง Deluxe room ผมถือว่าโอเคเลยครับ ถูกตกแต่งสไตล์ loft เราไปถึงโรงแรมกันราว ๆ 4 โมง ลูกสาว (ไอไอ) รอคอยเล่นน้ำมาตั้งแต่เมื่อวาน ก็ได้เล่นสมใจ อากาศอุ่น ๆ น้ำก็เย็นอยู่ครับ แต่ลูกสาวผมสู้สุดใจเล่นอย่างสนุกสนานเลยครับ
ที่ผมเลือก Puripai Villa เพราะชื่อค่อนข้างดัง และที่พักในปายกับบรรยากาศแบบนี้ หาค่อนข้างยากครับ จะเห็นว่าที่พักหันหน้าเข้าภูเขามองแล้วไกลสุดลูกหูลูกตา บางทีเราทำงานมาหนัก ๆ การที่ได้พักบรรยากาศแบบนี้ อยู่กับคนที่เรารักแบบนี้ ก็เป็นการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจที่ดีมากเลยครับ รู้สึกใจฟูจริง ๆ
- โรงแรม : Puripai Villa
- Room Type : Deluxe
พักผ่อนที่ Puripai Villa จนหายเหนื่อย ก็ชวนกันออกมาที่ถนนคนเดินปาย อยู่ห่างจากที่พักราว ๆ 8 นาที บรรยากาศดี ไม่ได้มีคนเยอะมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้เหงา มีของกินอร่อย ๆ กับอาหารของชาวปาย และ ชาวจีนยูนนาน อากาศก็เย็น ๆ ตอนผมไปกันปลาย ๆ หนาวเดือนกุมภาพันธ์ ก็ยังสัมผัสความเย็นได้ราว ๆ สัก 18 องศา อยู่ครับ ลูกก็ดู enjoy เช่นกันครับ หลังจากเราเดินเล่นถนนคนเดินเสร็จ ก็กินข้าวเย็นกันที่ร้านน้องเบียร์ ซึ่งก็อยู่ในถนนคนเดินนี่แหละครับ อาหารอร่อย เจ้าของก็รับแขกเป็นกันเองดีครับ ผมไม่แน่ใจว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่ผักที่นี่อร่อยมาก ! กินแล้วติดใจ เราอยู่ถนนคนเดินจนถึงราว ๆ 3 ทุ่ม ก่อนกลับเข้าที่พักครับ
Day 3 : เที่ยวรอบตัวเมืองปาย
วันที่ 3 เป็นวันที่เราเทื่ยวกันเยอะที่สุดครับ จริง ๆ จะบอกว่ารอบตัวเมืองปายก็คงไม่ผิด เราพยายามเก็บทุกที่ที่พอจะไปได้ (แม้จะออกจากที่พักก็เกือบ 10 โมงครึ่งแล้วก็ตาม)
พอดีเช้าวันที่ 2 ที่มาปาย ตื่นมาเข้าห้องน้ำตอน 7 โมง แล้วบรรยากาศดีมาก + หนาวมากเช่นกัน เลยเปิดม่านถ่ายรูป 1 ที แล้วเข้าไปซุกตัวใต้ผ้าห่มต่อครับ
เป็นอีกที่หนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ ครับ สำหรับ จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล จริง ๆ ถ้าเป็นครอบครัวอื่นอาจจะตื่นแต่เช้ามาชมทะเลหมอก แต่ไม่ใช่ครอบครัวเราครับ ! 555 แต่ขึ้นมาตอน 10 โมงแบบนี้ก็ได้ไปอีกบรรยากาศนึง คนน้อยชมวิวแบบส่วนตัว ๆ และที่สำคัญก็ยังมีหมั่นโถวและชาจีนให้กินด้วยเหมือนกันดนั่งกันอยู่สักพักเลยครับจุดนี้ แต่ต้องรีบกินหมั่นโถวหน่อยนะครับ แปปเดียวหมั่นโถวเย็นแข็งตัวแล้วครับ ฮา ฮา
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องแชร์ จากที่หาข้อมูลมา ปกติถ้ามาเช้า ๆ จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหลจะไม่สามารถเอารถยนต์ส่วนตัวขึ้นมาได้ ต้องใช้บริการรถสองแถวครับ แต่เนื่องจากเรามา 10 โมงกว่า เราจึงขับรถขึ้นมาได้ ขึ้นมาแบบงง ๆครับ ฮาาาา
หลังจากที่ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่หยุนไหลแล้ว เราก็ย้ายมาจิบกาแฟ (ภรรยากินไอศกรีม) กันต่อที่ Coffee In Love จริง ๆ บรรยากาศดีมาก แต่ผมถ่ายรูปมาน้อย + กับงานเข้าพอดี เลยต้องหยิบคอมมาทำงานนิดหน่อยครับ
ถัดจาก Coffee In Love @Pai เราก็มาต่อกันที่ Romance another story in Pai ที่นี่จะเป็นฟาร์ม มีน้องแกะ น้องวัว น้องม้า มีร้านกาแฟ เราสามารถเข้าไปดูสัตว์แบบใกล้ชิดได้ แค่เพียงดื่มกาแฟที่ร้านครับ ลูกกับแม่ enjoy มาก
ตกเย็น เราก็ไปต่อกันที่หมู่บ้านสันติชลครับ จะเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่อพยพมาอยู่ที่ไทย บรรยากาศดี น่าถ่ายรูป แถมยังได้กินอาหารจีนยูนนานเป็นอาหารเย็นอีกด้วย รสชาติจะออกแนว ๆ มัน ๆ หน่อย แนะนำให้กินคู่กับน้ำที่มีโซดาจะพอตัดเลี่ยนได้บ้างครับ
- โรงแรม : Puripai Villa
- Room Type : Deluxe
หลังจากกลับไปพักผ่อนที่ที่พักจนสัก 2 ทุ่มเราก็ออกมาซ้ำถนนคนเดินปาย และร้านน้องเบียร์อีกรอบ 555 เพราะว่าชอบบรรยากาศและอาหารจริง ๆ ครับ
Day 4 : กลับมาเชียงใหม่ ไป MARS.cnx, Night Safari กินข้าวเย็น Mr. Chan & Miss Pauline Pizzeria
ขากลับค่อนข้างชินทางแล้ว ทำให้ทำเวลาได้ไวกว่าเดิมเยอะ และที่สำคัญผมไม่ได้จอดพักอ้วกแล้วนะครับ ขากลับ 555
- เชียงใหม่ – ปาย ระยะทาง 115 km ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 41 นาที โดยประมาณ
หลังจากออกจากปายราว ๆ 9:30 AM สัก 12:00 PM ก็ถึงร้านอาหารกลางวันแล้วครับ เราไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อว่า SUSHI ICHIBAN ครับ 555 เพราะว่าเราไม่กินอาหารพื้นเมืองกันเท่าไหร่ เลยไปกินซูชิแทน รสชาติถือว่าไม่ธรรมดาเลยนะครับ พ่อครัวก็เป็นอดีตคนญี่ปุ่น (เค้าได้เมียเป็นคนไทย 555) ชอบมากครับ อร่อยดี แนะนำ ๆ ใครมาเชียงใหม่แล้วไม่อยากกินอาหารพื้นเมือง ผมแนะนำให้ไปกินที่นี่ครับ บรรยากาศร้านจะแนว Local หน่อยนะครับ
หลังจากกินข้าวอาหารญี่ปุ่นกันเสร็จแล้ว เราก็แวะ MARS.cnx คาเฟ่ที่ช่วงนี้ใครไปเชียงใหม่ ถ้าไม่ไป ถือว่าไปไม่ถึง 555 ก็ถ่ายรูปกันสวยดีครับ ส่วนเครื่องดื่มถือว่าอร่อยเลยครับ โดยเฉพาะ เมนู Signature NEBULA
แวะคาเฟ่เสร็จ เราก็ไปต่อกันที่ Chiang Mai Night Safari ลูกสาวค่อนข้างจะตื่นเต้นครับ แต่พอนานหน่อยตกเย็น นางหลับคารถที่พาทัวร์ดูสัตว์ 555 กลายเป็นว่าพ่อกับแม่ดูแทน ก็สนุกดีนะครับ แล้วก็ตัว Safari เป็นสวนสัตว์เปิด มีสัตว์เยอะมาก และดูแลอย่างดี ไม่ได้อยู่ในกรงกันซักเท่าไหร่ เวลาเราสอนลูกก็จะสอนเค้าง่าย เหมือนสัตว์ที่อยู่ในธรรมชาติจริง ๆ นี่ก็เป็นอีกที่ที่ต้องไปซ้ำรอบหน้าครับ
หลังจากดูสัตว์จนเหนื่อย เราก็ปิดท้ายด้วยอาหารเย็นสไตล์อิตาเลี่ยน (ก็ยังคงไม่ได้กินพื้นเมือง 555) อย่างร้าน Mr. Chan Miss Pauline Pizzeria ผมว่าร้านเค้าทำอร่อยดีครับ ราคาก็ไม่แพง ที่สำคัญมีเบียร์ Brewdog Punk IPA ของโปรดผมซะด้วย ก็เป็นอีกวันที่สนุกดีครับ
- โรงแรม : SYN Boutique Hotel
- Room Type : Serene white double room
- Check in – Check out 24 hrs
Day 5 : ตื่นสาย ๆ เล่นน้ำถึงบ่ายโมง ค่อยขับรถกลับกทม.
เนื่องจากโรงแรมเป็นแบบ Check in ตอนไหน Check out ตอนนั้น เราจึงได้พาลูกสาวเล่นน้ำสุดท้ายก่อนกลับกทม ซึ่งนางก็แฮปปี้สุด ๆ (โดยที่ไม่รู้เลยว่าพ่อต้องขับรถอีกหลายชั่วโมง) โดยรวมสำหรับ SYN Boutique hotel ก็ไม่มีอะไรจะติจริง ๆ ครับ เราพักที่นี่ 2 คืน ชอบมากจริง ๆ บรรยากาศ ความสะอาด สภาพห้อง ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด รอบหน้าเราจะไปซ้ำกันอีกแน่นอน
เส้นทางขากลับ เชียงใหม่ – กรุงเทพ
ภาพรวมขากลับผมออกจากเชียงใหม่ก็ 1:06 PM แล้วครับ ถึง กทม ๆ 12:00 AM ก็เป็นการขับรถไกลกว่า 700 km ครั้งที่สอง (ครั้งแรกคือขาไป) ก็ทำเวลาได้ดีขึ้นครับ แต่ก็ยังใช้ความเร็วอยู่ในช่วง 100 – 120 km/h ผมมีแวะกินข้าวที่ตากใช้เวลากินข้าวราว ๆ 1 ชั่วโมงเศษ ก่อนยิงยาวกลับบ้านครับ
ซึ่งผมจะแบ่งเป็น 3 ช่วงแบบนี้ครับ
- เชียงใหม่ – ตาก ระยะทาง 272 km ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 6 นาที โดยประมาณ แวะทานข้าวเย็นที่ บ้านเคียงน้ำ จ. ตาก
- ตาก – นครสวรรค์ ระยะทาง 157 km ใช้เวลา 2 ชั่วโมง โดยประมาณ
- นครสวรรค์ – กรุงเทพ ระยะทาง 289 km ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 8 นาที โดยประมาณ
สรุป
จบไปแล้วนะครับกับ รีวิว RoadTrip กทม- เชียงใหม่ – ปาย 5 วัน 4 คืน 1,798 KM ถือว่าเป็นการขับรถทางไกลมากครั้งแรกของผมนะครับ ยังไงก็อยากจะฝากให้ติดตามเว็บไซต์เราด้วยนะครับ หวังว่าคราวหน้าจะได้พากันไปเที่ยว RoadTrip แบบนี้อีกครับ !