สวัสดีครับทุกคน วันนี้ Daddy – Gadget จะมารีวิว การขับเจ้า Tesla Model 3 RWD เที่ยวจังหวัดในภาคเหนือ โดยเริ่มจาก กทม ไปที่เชียงใหม่ ไป ปาย และไปบ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระยะทางกว่า 2,000 km 5 วัน 4 คืน กับการชาร์จไฟทั้งหมด 6 ครั้ง ขึ้นเขาลงเขา อยู่บนรถกว่า 30 ชั่วโมง จะเป็นยังไงบ้าง จะประหยัดขนาดไหน ไปดูกันครับ
เส้นทาง Road Trip กรุงเทพ – เชียงใหม่ – ปาย – บ้านรักไทย 5 วัน 4 คืน ในแต่ล่ะช่วง
วันที่ 1
- เส้นทางหลักที่ 1 : กรุงเทพ → ชาร์จ EleX คลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร 【345 km】
- เส้นทางหลักที่ 2 : EleX คลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร → ชาร์จ EleX เถิง จังหวัดลำปาง【195 km】
- เส้นทางหลักที่ 3 : EleX เถิง จังหวัดลำปาง → Travelodge Nimman จังหวัดเชียงใหม่ → ชาร์จ EleX One Nimman จังหวัดเชียงใหม่ 【193 km】
วันที่ 2
- เส้นทางหลักที่ 4 : Travelodge Nimman จังหวัดเชียงใหม่ → 7-Eleven อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน【174 km】
- เส้นทางหลักที่ 5 : อ.ปาย → 168 Rakthai Resort อ.เมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน【110 km】ชาร์จโรงแรม
วันที่ 3
- เส้นทางหลักที่ 6 : 168 Rakthai Resort อ.เมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน → Bar 124 Cafe → อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน【122 km】
วันที่ 4
- เส้นทางหลักที่ 7 : อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน → จังหวัดเชียงใหม่【126 km】
วันที่ 5
- เส้นทางหลักที่ 8 : จังหวัดเชียงใหม่ → Tesla Supercharger จังหวัดกำแพงเพชร【353 km】
- เส้นทางหลักที่ 9 : Tesla Supercharger จังหวัดกำแพงเพชร → กรุงเทพ 【382 km】
ต้องบอกเลยว่า เราค่อนข้างจะอยู่บนรถในแต่ล่ะวันค่อนข้างเยอะนะครับ โดยเน้นเป็น Road Trip อยากจะลองขับ EV ไปเที่ยวไกล ๆ ดูบ้าง โดยก่อนหน้านี้เราเคยไปเขาค้อกัน ก็พอได้ครับ เจอที่พักที่สามารถชาร์จได้ และระหว่างทางก็มีที่ชาร์จ EleX พอดี ในส่วนของเชียงใหม่เดี๋ยวต่อไปเราจะไปเจาะทีล่ะเส้นทางกันครับ ว่าเราเจออะไรบ้างและ ชาร์จที่ไหน ใช้แบตเตอรี่เท่าไหร่ ความเร็วในการขับขี่ประมาณไหน .. ไปดูกัน
สเปคของ Tesla Model 3 RWD ที่เราใช้ในการขับขี่รอบนี้
Tesla Model 3 RWD
(รุ่นในการขับขี่รีวิวนี้) |
Tesla Model 3 LR | Tesla Model 3 Perf. | |
ระบบมอเตอร์ | Single Motor | Dual Motor | Dual Motor |
ระบบขับเคลื่อน | ล้อหลัง | สี่ล้อ | สี่ล้อ |
ระยะวิ่ง NEDC | 559 km | 681 km | 608 km |
อัตราเร่ง 0-100 km/hrs | 6.1 s | 4.4 s | 3.3 s |
น้ำหนัก | 1,760 kg | 1,844 kg | 1,844 kg |
พื้นที่เก็บสัมภาระ | 649 ลิตร | ||
ล้อ | Aero wheel 18 นิ้ว | Sport wheel 19 นิ้ว | Uberturbine 20 นิ้ว |
จอแสดงผล | 15 นิ้วแบบสัมผัส | ||
มิติตัวถัง | 2,088mm x 4,694 mm x 1,443 mm | ||
ระยะห่างใต้ท้องรถกับพื้น | 140 mm | ||
ความกว้างช่วงล้อ | 1,580 mm | ||
ควาามเร็วการชาร์จ | เพิ่มระยะสูงสุด 309 km ภายใน 15 นาที | ||
รับประกัน | รถพื้นฐาน 4 ปีหรือ 80,000 กม. ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดเกิดขึ้นก่อน แบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อน 8 ปีหรือ 160,000 กม. ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดเกิดขึ้นก่อน |
รถพื้นฐาน 4 ปีหรือ 80,000 กม. ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดเกิดขึ้นก่อน
แบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อน 8 ปีหรือ 192,000 กม. ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดเกิดขึ้นก่อน |
|
ความต่างอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุใน Official Website | – ไม่มีไฟตัดหมอกหน้า
– ลำโพง Partial Premium |
– มีไฟตัดหมอกหน้า
– ลำโพง Premium |
** รุ่นไฮไลท์สีแดง
วันที่ 1
เส้นทางหลักที่ 1 : กรุงเทพ → แวะชาร์จ EleX คลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร
- ระยะทาง :【345 km】
- การใช้แบตเตอรี่ :【100% → 18%】
- เวลาในการเดินทาง : 【7:55 am – 11:45 am หรือ 3 ชั่วโมง 38 นาที】
- การชาร์จ :【18% → 100%】
- สถานที่ชาร์จ: 【EleXA DC 125 kw ชาร์จไป 53 kWh】
- ค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟ :【397.53 บาท】
- ระยะเวลาในการชาร์จ :【54 นาที】
- ระยะเวลาการรอคิว : 【ราว ๆ 10 นาที】
ก็ถือว่าเป็นช่วงแรกที่เราได้ขับรถออกจากกรุงเทพมาไกลขนาดนี้นะครับ โดยก่อนการเดินทาง เราก็จะมองหาจุดชาร์จที่ให้กำลังไฟแรงสุด เรื่องราคา EleX อาจจะแพงกว่าเพื่อนค่ายอื่น ๆ แต่ก็แรกมาด้วยความรวดเร็วในการชาร์จ สามารถที่จะพักรถได้อย่างรวดเร็วครับ สำหรับขาไป Tesla Supercharger ยังไม่ได้เปิด ถ้าเปิด ก็แน่นอนว่าเราคงเข้า Supercharger ก็จะได้ความไวมากกว่า
ตอนที่เรามาหัวชาร์จนั้นเต็มนะครับ ด้วยเป็นช่วงเทศกาล และน่าจะเป็นปีแรก ๆ ที่คนใช้รถ EV มากมายขนาดนี้ EleXa ถึงกับปิดระบบจองไปเลยนะครับ ช่วงนั้น Walk-in ก็ไม่ได้เสียหายอะไรครับ ก็คล้าย ๆ Tesla Supercharger ส่วนระยะเวลารอ ก็ราว ๆ 10 นาที ไม่เกิน
ด้วยเราไปชาร์จตอนใกล้ ๆ เที่ยง ก็สามารถที่จะหาอะไรทานกันได้ในปั้มน้ำมันพอดีเลยครับ สำหรับครอบครัวผมมีเด็กเล็ก 2 คน ป้อนข้าวกันยังไม่ทันเสร็จ ก็ต้องรีบเลื่อนรถกันแล้ว โดยรวมจุดชาร์จแรก เราใช้เวลาไปทั้งสิ้น 1 ชั่วโมงกว่า ๆ พร้อมกินข้าวกลางวันครับ
เส้นทางหลักที่ 2 : EleX คลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร → EleXA อ. เถิง จังหวัดลำปาง
- ระยะทาง :【195 km】
- การใช้แบตเตอรี่ :【100% → 45%】
- เวลาในการเดินทาง : 【13:00 am – 14:54 am หรือ 1 ชั่วโมง 54 นาที】
- การชาร์จ :【45% → 72 %】
- สถานที่ชาร์จ: 【EleXA DC 125 kw ชาร์จไป 17 kWh】
- ค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟ :【127.66 บาท】
- ระยะเวลาในการชาร์จ :【31 นาที】
- ระยะเวลาการรอคิว : 【ราว ๆ 30 นาที】
จริง ๆ ต้องบอกว่า ตอนแรกกะจะขับให้ถึงเชียงใหม่ครับ แล้วค่อยไปชาร์จที่ One Nimman แต่ด้วยการขับขี่ที่ใช้ความเร็วประมาณนึง บวกกับเป็นทางขึ้นเขา ทำให้มันจะเหลือแบตไม่ถึง 5% และตอนขาไป ปลายทางเราก็ยังไม่แน่ใจว่าหัวชาร์จ EleXA ที่ One Nimman จะเป็นยังไง จะช้า คนจะเยอะไหม เราเลยตัดสินใจ Top-up ให้พอถึงเชียงใหม่แล้วเหลือสัก 20% ค่อยไปชาร์จตอนเดินเล่นกลางคืนอีกรอบนึง
รอบนี้พอมาถึง หัวชาร์จเต็มอีกแล้ว …. และรอบนี้รอนาน รอเกือบ 30 นาทีเลยทีเดียวครับ แต่หัวชาร์จก็ยังแรงเท่าเดิม ต้องบอกว่า รอบหน้าไปมี Tesla Supercharger ที่ลำปางแล้วคงจะสบายกว่านี้
เส้นทางหลักที่ 3 : EleX เถิง จังหวัดลำปาง → Travelodge Nimman จังหวัดเชียงใหม่ → EleX One Nimman จังหวัดเชียงใหม่
- ระยะทาง :【195 km】
- การใช้แบตเตอรี่ :【72% → 26%】
- เวลาในการเดินทาง : 【15:53 am – 18.05 am หรือ 2 ชั่วโมง 7 นาที】
- การชาร์จ :【23% → 100%】
- สถานที่ชาร์จ: 【EleXA DC 125 kw ชาร์จไป 49 kWh】
- ค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟ :【367 บาท】
- ระยะเวลาในการชาร์จ :【50 นาที】
- ระยะเวลาการรอคิว : 【ไม่ต้องรอ】
หลังจากที่ชาร์จรถ top-up ที่ลำปางเสร็จ ก็ยิงยาวมาจนถึงเชียงใหม่เลยครับ โดยเรามาถึงเชียงใหม่ช่วง 18.00 ก็เข้าไปพักผ่อนที่โรงแรมซักพัก ก่อนจะขับรถออกมาหาอะไรทานที่ One Nimman ก็ถือโอกาสชาร์จแบตให้เต็ม 100% ก่อนเดินทางไปบ้านรักไทย ในวันรุ่งขึ้นครับ
เราไปถึง One Nimman ราว ๆ 2 ทุ่มได้ครับ ไปถึงก็ไม่ต้องรอคิวอะไร สามารถเข้าชาร์จได้ทันทีเลย ซึ่งที่ชาร์จของ Elex จะอยู่ด้านหลังห้างครับ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่รู้สึกว่ามันเร็วเกินกว่าที่เราจะกินข้าวอย่างชิว ๆ ได้ มันไวจนเรากินข้าวได้ไม่เท่าไหร่ แบตเตอรี่ก็เต็มซะแล้ว ก็ต้องมาเลื่อนรถก่อนครับ เพราะเกรงใจคนอื่น ๆ หลังจากที่เรากินข้าวชาร์จแบตเตอรี่เสร็จ ก็เดินทางกลับโรงแรม เป็นอันจบภาระกิจวันแรก
วันที่ 2
เส้นทางหลักที่ 4 : Travelodge Nimman จังหวัดเชียงใหม่ → Sky Blue อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ระยะทาง :【174 km】
- การใช้แบตเตอรี่ :【99% → 66 %】
- เวลาในการเดินทาง : 【8:25 am – 11:25 am หรือ 3 ชั่วโมง 0 นาที】
- การชาร์จ : –
- สถานที่ชาร์จ: –
- ค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟ :-
- ระยะเวลาในการชาร์จ :-
- ระยะเวลาการรอคิว : –
ตอนแรกเราว่าจะยิงยาวไปบ้านรักไทยเลย เพราะยังไงขากลับคงได้มาเที่ยวปายอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ต้องซื้อของ ซื้อนมให้เด็ก ๆ ก่อนขึ้นไปบ้านรักไทย ก็เลยได้แวะเซเว่น และ คาเฟ่ใน อ.ปาย ก่อนครับ
ระหว่างขึ้นไปบ้านรักไทย ก่อนที่จะถึงบ่าย ก็แวะเก็บภาพ และบรรยากาศที่ทางโค้ง อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
อย่างที่บอกไปว่ามีแวะ ปาย นะครับ ก็ถือว่าได้พักกาย แถมได้มองวิวงาม ๆ แบบนี้อีกด้วยครับ กับ Blue Sky Cafe ตอนที่ผมไป Dec’23 ที่ปาย ยังไม่มีหัวชาร์จ EV นะครับ ถ้าจะชาร์จ อาจจะต้องหา resort ที่มีให้ชาร์จกับปลั๊กไฟ หรือไม่ก็แท่นชาร์จครับ
เส้นทางหลักที่ 5 : อ.ปาย → 168 Rakthai Resort อ.เมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ระยะทาง :【110 km】
- การใช้แบตเตอรี่ :【66% → 36%】
- เวลาในการเดินทาง : 【12.00 am – 14:30 am หรือ 2 ชั่วโมง 30 นาที】
- การชาร์จ :【36% → 100%】
- สถานที่ชาร์จ: 【168 Rakthai Resort Plug AC 3 kW ชาร์จไป 38 kWh】
- ค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟ :【300 บาท จ่ายกับโรงแรม】
- ระยะเวลาในการชาร์จ :【14.3 ชั่วโมง】
- ระยะเวลาการรอคิว : 【ไม่ต้องรอ】
เส้นทางจาก ปาย ไปบ้านรักไทย ต้องบอกว่าโค้งเยอะมาก และทำความเร็วมากไม่ค่อยได้ ทางเป็นทางสลับระหว่างขึ้นและลงภูเขานะครับ แบตเตอรี่ได้ generate กลับมาตอนลงจากภูเขา และใช้มากตอนขึ้นเขา โดยรวมหักลบแล้ว ก็ไม่ได้ใช้ต่างจากทางราบเท่าไหร่เลยครับ
ตอนแรกคุยกับทางโรงแรมว่ายังไม่ได้ให้เสียบปลั๊ก แต่พอไปถึงจริง ๆ ทางโรงแรมให้เสียบได้ แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 300 บาท จริง ๆ สำหรับผม มองว่ามันไม่ค่อยต่างอะไรจากค่าชาร์จ Elex ก็โอเคชาร์จกับ รร ไปครับ
อย่างที่บอกไปว่าเป็นปลั๊กให้เสียบแบบ AC ทั่วไป ไฟบ้าน 220v ก็วิ่งอยู่ที่ 3kW ที่ 13A ครับ ไปถึงบ่าย 2 ผมก็ชาร์จยาวไปชนถึงเช้า บ้านรักไทยเราไม่ได้ใช้รถอยู่แล้ว สามารถเดินเล่นชิว ๆ รอบหมู่บ้านได้เลยครับ
เอาบรรยากาศมาฝากกันซักหน่อยครับ ตอนไปถึงก็ราว ๆ บ่าย นั่งทานข้าวไป ก็รับบรรยากาศไป ชิวดีครับ
ตกเย็นหน่อย เราก็มาเดินเล่นรอบ ๆ หมู่บ้านอีกทีครับ จะเจอเรือที่เริ่มออกมาพายไปรอบ ๆ หมู่บ้านครับ บรรยากาศดีสุด ๆ อากาศก็เย็น ๆ 20 องศา
วันที่ 3
เส้นทางหลักที่ 6 : 168 Rakthai Resort อ.เมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน → Bar 124 Cafe → อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- ระยะทาง :【122 km】
- การใช้แบตเตอรี่ :【100% → 73%】
- เวลาในการเดินทาง : 【10:50 am – 14:50am หรือ 4 ชั่วโมง 0นาที】
- การชาร์จ :-
- สถานที่ชาร์จ: –
- ค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟ :-
- ระยะเวลาในการชาร์จ :-
- ระยะเวลาการรอคิว : –
เข้าสู่วันที่ 3 หลังจากเราเที่ยวในหมู่บ้านรักไทย อย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เดินทางออกจากบ้านรักไทยลงมาที่ปาย เพื่อจะเที่ยวเล็กน้อยและนอนพักผ่อนสัก 1 คืนครับ อย่างที่บอกไปนะครับว่า ปาย จะยังไม่มีที่ให้ชาร์จ เราเลยยังไม่ได้ชาร์จ แบตเตอรี่เองก็เหลือมากถึง 73% ก็ไม่ได้กังวลอะไรครับ
มีแวะ Romance Farm ให้ลูก ๆ ได้เจอสัตว์ต่าง ๆ ครับ
วนเข้าที่พักไป Check-in โดยเรานอนกันที่ Aether Pai Villa ที่นี่ยังไม่มีที่ชาร์จครับ และปลั๊กไฟเองก็อยู่ไกลด้วย ตกเย็นก็มีไปแวะ two hut pai ได้รูปสวย ๆ ก่อนไปเดินเล่นตลาดนัดคนเดินปายครับ วันนี้ก็ชิว ๆ
วันที่ 4
เส้นทางหลักที่ 7 : อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน → Chiang Mai Night Safari → SYN Boutique Hotel
- ระยะทาง :【178 km】
- การใช้แบตเตอรี่ :【63% → 25%】
- เวลาในการเดินทาง : 【10.20 am – 13:40am หรือ 3 ชั่วโมง 20 นาที】
- การชาร์จ :-
- สถานที่ชาร์จ: –
- ค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟ :-
- ระยะเวลาในการชาร์จ :-
- ระยะเวลาการรอคิว : –
หลังจาก 2 วันที่เต็มอิ่มกับจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว ก็ได้เวลากลับมาเข้าเมืองเชียงใหม่ พอลงจากปายมา เราก็พาเด็ก ๆ ไปเที่ยวต่อที่ Chiang Mai Night Safari กันเลยครับ ทันรอบ 14:00 พอดี ซึ่งเป็นรอบรถที่ออกไปดูสัตว์ตอนกลางวันรอบแรก เราเคยมากลางคืน ปรากฏว่าเด็กหลับ รอบนี้เลยมากลางวันแทนครับ ณ ตอนนี้แบตเตอรี่เหลือราว 25% ก็ไม่ได้ซีเรียสครับ ตั้งใจชาร์จวันสุดท้ายอยู่แล้ว
Chiang Mai Night Safari ตอนบ่าย เจอ Tesla หลายคันมาก ที่เชียงใหม่และรอบ ๆ เมือง
หลังจากที่เราเที่ยวจนเต็มที่ ก็ได้กลับมาพักผ่อนที่ รร SYN Boutique Hotel ก็เป็นอีก รร นึง ที่ยังไม่มีที่ชาร์จไฟครับ ที่พูดึคุยก็เหมือน รร กำลังพิจารณาลงทุน ติดตั้งแท่นชาร์จอยู่ครับ
ทำให้ตอนเช้าก่อนออกจากเชียงใหม่ เราต้องไปหาอะไรกินที่ One Nimman เพื่อชาร์จไฟให้เต็ม 100% ก่อนกลับ กทม กันครับ
- การชาร์จ :【25 % → 100%】
- สถานที่ชาร์จ: 【EleXA DC 125 kw ชาร์จไป 44kWh】
- ค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟ :【336 บาท จ่ายกับโรงแรม】
- ระยะเวลาในการชาร์จ :【50 นาที】
- ระยะเวลาการรอคิว : 【ไม่ต้องรอ】
วันที่ 5
เส้นทางหลักที่ 8 : จังหวัดเชียงใหม่ → Tesla Supercharger จังหวัดกำแพงเพชร
- ระยะทาง :【353 km】
- การใช้แบตเตอรี่ :【100% → 8%】
- เวลาในการเดินทาง : 【15:30 am – 19:20 am หรือ 3 ชั่วโมง 50 นาที】
- การชาร์จ :【8% → 100%】
- สถานที่ชาร์จ: 【Tesla Supercharger กำแพงเพชร 250 kWh】
- ค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟ :【575 บาท 】
- ระยะเวลาในการชาร์จ :【35 นาที】
- ระยะเวลาการรอคิว : 【ไม่ต้องรอ】
วันกลับ ออกมาจากเชียงใหม่ก็ 15:30 แล้วครับ ปล่อยให้เด็ก ๆ เล่นน้ำจนพอใจ ขาออกมา ก็ตั้งใจจะมาลองชาร์จที่ Tesla Supercharger กำแพงเพชรอยู่แล้วครับ ขาไปยังไม่เสร็จ ขากลับเสร็จแล้ว ก็อยากลองสักหน่อย แบตเตอรี่เหลือไม่ถึง 10% ก็ขับมาค่อนข้างไวครับ ดีที่ยังเหลือพอ ด้วยที่เป็นทางลงเขาด้วย
มาถึงก็ราว ๆ 19:20 หาไม่ยากมากครับ อยู่ที่ลานจอด ไม่มีคิวต้องรออะไร สะดวกใช้ได้เลยครับ เหมือนเดิม ยังป้อนข้าวเด็ก ๆ ไม่เสร็จ ก็ต้องมาเลื่อนรถออกก่อนอีกแล้ว
เส้นทางหลักที่ 9 : Tesla Supercharger จังหวัดกำแพงเพชร → กรุงเทพ 【382 km】
- ระยะทาง :【382km】
- การใช้แบตเตอรี่ :【100% → 8%】
- เวลาในการเดินทาง : 【20:50 am – 00:40 am หรือ 3 ชั่วโมง 50 นาที】
- การชาร์จ :-
- สถานที่ชาร์จ: –
- ค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟ :-
- ระยะเวลาในการชาร์จ :-
- ระยะเวลาการรอคิว : –
หลังจากชาร์จเสร็จก็รีบเบ่งเข้าบ้านเลยครับ ถนนนั้นดีมาก ไม่ค่อยมีหลุมมีบ่ออะไร ขับได้เรื่อย ๆ และแน่นอนว่า หลังถึงบ้าน ก็ชาร์จกะไฟบ้านเรียบร้อย
โดยสรุปแล้ว Tesla Model 3 หรือ EV ทั่ว ๆ ไป ก็สามารถขึ้นเหนือไปขับรถเล่นบนภูเขาได้ เพราะเรื่องที่ชาร์จไฟ มันมีหลากหลาย solution ในการใช้ไฟ ไม่ว่าจะเป็นสถานีชาร์จ สถานที่พัก หรือแม้กระทั้งคาเฟ่ หลัง ๆ ก็ทำเผื่อให้แล้ว
แล้วถ้าเราใช้ Tesla ล่าสุด ตัว Supercharger ก็มีไปเปิดที่กำแพงเพชร และลำปาง และมีที่เชียงใหม่ในอนาคตอีกด้วยครับ ใครอยากเที่ยวและลังเลอยู่ ผมแนะนำว่าต้องไปลองสักครั้ง มันไม่ได้ต่างอะไรกับรถน้ำมันเลย ต่างก็แค่ EV ประหยัดกว่านั่นเอง !