คำถามยอดนิยมของหลาย ๆ คนที่กำลังมองหาแท็บเล็ตสำหรับใช้ในบ้านก็คือ: “iPad รุ่นไหนดี?” เพราะ iPad แต่ละรุ่นมีจุดเด่นต่างกันทั้งด้านขนาด หน้าจอ ความแรง ราคา และอุปกรณ์เสริม
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ iPad รุ่นต่าง ๆ ที่น่าสนใจในปี 2025 พร้อมคำแนะนำสำหรับการเลือกซื้อ iPad ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานในบ้าน ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม เรียนออนไลน์ ประชุม หรือใช้เป็นศูนย์กลางความบันเทิงของครอบครัว
iPad ในปี 2025 มีรุ่นอะไรบ้าง?
Apple วางจำหน่าย iPad แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่:
- iPad (รุ่นมาตรฐาน) – รุ่นราคาย่อมเยา ใช้งานทั่วไปได้ดี
- iPad mini – ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย
- iPad Air – บาง เบา แต่ทรงพลัง
- iPad Pro – รุ่นท็อปสุด เหมาะกับงานมืออาชีพและการใช้งานหนัก
ในปี 2025 Apple อัปเกรดหลายรุ่น โดยเฉพาะ iPad Pro ที่เปลี่ยนมาใช้ชิป Apple M3 พร้อมหน้าจอ OLED ครั้งแรก ส่วน iPad Air และ iPad รุ่นมาตรฐานก็มีสเปกที่ดีขึ้น และราคาคุ้มค่ายิ่งขึ้น
ตารางเปรียบเทียบ iPad ปี 2025 (รุ่นล่าสุด)
รุ่น | ขนาดหน้าจอ | ชิปประมวลผล | รองรับ Apple Pencil | พอร์ตเชื่อมต่อ | ราคาเริ่มต้น (ประมาณ) |
---|---|---|---|---|---|
iPad (รุ่นที่ 11) | 10.9 นิ้ว | A15 Bionic | Pencil 1 (USB-C) | USB-C | 12,900 บาท |
iPad mini (รุ่นที่ 7) | 8.3 นิ้ว | A17 | Pencil 2 | USB-C | 19,900 บาท |
iPad Air (รุ่นที่ 6) | 11 / 13 นิ้ว | M2 | Pencil 2 / Pencil Pro | USB-C | 24,900 บาท |
iPad Pro (รุ่นที่ 7) | 11 / 13 นิ้ว | M3 | Pencil Pro | Thunderbolt / USB-C | 38,900 บาท |
ความต้องการของการใช้ iPad ในบ้าน
- สำหรับการใช้งาน iPad ภายในบ้าน จุดประสงค์หลักมักจะรวมถึง:
- ดูหนัง ฟังเพลง เล่น YouTube
- วิดีโอคอลผ่าน Zoom, FaceTime
- ใช้งานแอปเพื่อการศึกษา เช่น YouTube Kids, Khan Academy
- อ่านข่าว เล่นเกมทั่วไป
- ใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริม เช่น Smart Keyboard, Apple Pencil
- ใช้งานหลายคนในครอบครัว แชร์ iPad ร่วมกัน
- จากความต้องการเหล่านี้ เรามาดูกันว่า iPad รุ่นไหนเหมาะกับบ้านของคุณมากที่สุด
iPad รุ่นที่เหมาะกับ “ใช้งานทั่วไปในบ้าน”
✅ ตัวเลือกแนะนำ: iPad รุ่นที่ 11 (2025)
จุดเด่น:
ราคาเริ่มต้นเพียง 12,900 บาท
- หน้าจอขนาด 10.9 นิ้ว กำลังดี ดูหนัง เล่นเกม อ่านข่าวสะดวก
- ใช้ชิป A15 Bionic เร็วเพียงพอกับงานทั่วไป
- รองรับ Apple Pencil (รุ่น USB-C) สำหรับขีดเขียนหรือให้เด็กใช้วาดรูป
- มี USB-C ใช้งานกับอุปกรณ์เสริมได้สะดวก
เหมาะสำหรับ: ครอบครัวทั่วไป ใช้ดูหนัง Netflix, YouTube, ใช้เรียนออนไลน์ หรือเล่นเกมง่าย ๆ เช่น Subway Surfers, Roblox
iPad สำหรับ “ใช้งานหลายหน้าที่ และทำงานบ้าง”
✅ ตัวเลือกแนะนำ: iPad Air รุ่นที่ 6 (M2)
จุดเด่น:
- ใช้ชิป M2 เร็วแรงมาก เหมาะกับการทำงานหลายแอปพร้อมกัน
- มีให้เลือกทั้งหน้าจอ 11 นิ้ว และ 13 นิ้ว
- รองรับ Apple Pencil รุ่นใหม่ (Pencil Pro) – วาดภาพ จดโน้ตสบาย
- ใช้แอปเช่น Microsoft Word, Excel, หรือ Canva ได้ลื่นไหล
เหมาะสำหรับ: คนทำงานที่ใช้ iPad ทำงานจากบ้าน, คุณพ่อคุณแม่ที่ประชุมออนไลน์, หรือคนที่ชอบวาดภาพ/ออกแบบกราฟิกเบา ๆ
ราคาเริ่มต้น: 24,900 บาท (รุ่น 11 นิ้ว)
iPad สำหรับ “ความบันเทิงระดับพรีเมียมในบ้าน”
✅ ตัวเลือกแนะนำ: iPad Pro รุ่นที่ 7 (M3 + OLED)
จุดเด่น:
- ใช้ชิป M3 ระดับเดียวกับ MacBook Pro แรงที่สุดในบรรดา iPad
- หน้าจอ OLED สีสวย คมชัดแบบสุด ๆ – เหมาะกับดูหนัง เล่นเกม กราฟิกระดับสูง
- รองรับ Apple Pencil Pro และ Magic Keyboard รุ่นใหม่
- ลำโพง 4 ตัว ให้เสียงรอบทิศทางยอดเยี่ยม
เหมาะสำหรับ: บ้านที่เน้นการดู Netflix, Disney+, YouTube ระดับ 4K HDR, ใช้ iPad แทนแล็ปท็อป หรือผู้ใช้งานระดับโปร เช่น ตัดต่อวิดีโอใน LumaFusion, ใช้ Procreate
ราคาเริ่มต้น: 38,900 บาท (11 นิ้ว)
iPad mini ยังน่าใช้ไหม?
✅ ตัวเลือกเสริม: iPad mini รุ่นที่ 7
จุดเด่น:
- ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย เหมาะสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่อยากถือของหนัก
- ชิป A17 แรงกว่า iPad รุ่นปกติ
- หน้าจอ 8.3 นิ้ว เหมาะกับอ่านหนังสือ ดู YouTube
ข้อเสีย:
- ราคาสูงกว่ารุ่นมาตรฐาน แม้จะเล็กลง
- ไม่เหมาะกับการใช้งานหลายคนพร้อมกัน หรือแบ่งหน้าจอ
ราคา: 19,900 บาท
สรุป: iPad รุ่นไหนดีสำหรับใช้ในบ้านปี 2025?
ลักษณะการใช้งาน | รุ่นที่แนะนำ | เหตุผล |
---|---|---|
ใช้งานทั่วไปในบ้าน | iPad รุ่นที่ 11 | ราคาย่อมเยา ใช้งานลื่นไหล ครบทุกฟังก์ชันพื้นฐาน |
ดูหนัง ฟังเพลง เป็นศูนย์กลางความบันเทิง | iPad Pro รุ่นที่ 7 | หน้าจอ OLED และลำโพงคุณภาพสูงสุด |
ทำงานจากบ้าน เรียนออนไลน์ | iPad Air รุ่นที่ 6 | ชิป M2 แรง รองรับคีย์บอร์ดและสไตลัสเต็มรูปแบบ |
เด็กเล็ก ใช้งานง่าย พกพาไปนอกบ้าน | iPad mini รุ่นที่ 7 | ขนาดเล็กเหมาะกับมือเด็ก และใช้งานง่าย |
คำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจซื้อ
- เลือกความจุที่เหมาะสม – ถ้าใช้ร่วมกันในบ้าน ควรเลือกความจุอย่างน้อย 128GB หรือ 256GB
- รุ่น Wi-Fi เพียงพอแล้ว – ถ้าไม่ได้ใช้งานนอกบ้านบ่อย ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่น Cellular
- ซื้อ Apple Pencil เฉพาะเมื่อจำเป็น – ถ้าไม่ได้วาดภาพหรือจดโน้ตบ่อย ไม่ต้องซื้อก็ได้
- เลือกอุปกรณ์เสริมคุณภาพดี – เช่น เคสกันกระแทกสำหรับเด็ก หรือลำโพง Bluetooth เพิ่มเสียง
สรุปสุดท้าย
iPad ทุกรุ่นในปี 2025 ต่างก็มีจุดเด่นของตัวเอง แต่ถ้าจะเลือกสำหรับใช้งานในบ้าน ขอแนะนำให้เริ่มจาก iPad รุ่นที่ 11 เพราะราคาคุ้มค่า ใช้งานได้ครอบคลุม และอัปเกรดขึ้นมาที่ iPad Air หรือ iPad Pro ได้หากต้องการฟีเจอร์หรือประสิทธิภาพที่สูงกว่า
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเลือก iPad ได้เหมาะกับบ้านของคุณมากที่สุด และใช้งานได้อย่างเต็มที่ทั้งครอบครัว