Apple ได้เปิดตัว iPad Air M3 ที่มาพร้อมกับชิป M3 ซึ่งเป็นการอัปเกรดที่สำคัญ ทำให้แท็บเล็ตระดับกลางของ Apple ทรงพลังขึ้น รองรับการทำงานและความบันเทิงที่ลื่นไหลมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปดูรายละเอียดของสเปคและราคาล่าสุดของ iPad Air M3 ในประเทศไทย พร้อมทั้งประวัติของ iPad Air, การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า, รีวิวการใช้งาน, แอปพลิเคชันที่เหมาะสม และการใช้งานสำหรับงานเฉพาะทาง
ประวัติของ iPad Air
iPad Air เปิดตัวครั้งแรกในปี 2013 โดยเป็นแท็บเล็ตที่ได้รับการออกแบบให้บางและเบากว่า iPad รุ่นมาตรฐาน พร้อมทั้งมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละรุ่นที่ผ่านมา โดยในปัจจุบัน iPad Air ได้พัฒนาเข้าสู่เจเนอเรชันที่ 7 มาพร้อมกับชิปประมวลผลระดับแล็ปท็อปที่ช่วยให้สามารถทำงานได้หลากหลายขึ้น
รายชื่อ iPad Air รุ่นต่างๆ
- iPad Air (2013) – ชิป A7, ดีไซน์บางเบา
- iPad Air 2 (2014) – ชิป A8X, Touch ID
- iPad Air 3 (2019) – ชิป A12 Bionic, รองรับ Apple Pencil
- iPad Air 4 (2020) – ชิป A14 Bionic, ดีไซน์ไร้ปุ่มโฮม
- iPad Air 5 (2022) – ชิป M1, รองรับ 5G
- iPad Air 6 (2024) – ชิป M2, ดีไซน์ใหม่
- iPad Air 7 (M3) (2025) – ชิป M3, ขนาดจอ 11 และ 13 นิ้ว
สเปคของ iPad Air M3
หน้าจอและดีไซน์
iPad Air M3 มาพร้อมกับจอภาพ Liquid Retina ที่ให้ความละเอียดสูงและสีสันที่คมชัด โดยมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่:
- รุ่น 11 นิ้ว ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล
- รุ่น 13 นิ้ว ความละเอียด 2732 x 2048 พิกเซล
ทั้งสองรุ่นรองรับขอบเขตสีกว้าง (P3), เทคโนโลยี True Tone ที่ช่วยปรับสีของหน้าจอให้เหมาะกับสภาพแสง และเคลือบสารกันรอยนิ้วมือเพื่อการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น
ประสิทธิภาพและชิปประมวลผล
iPad Air M3 ใช้ชิป Apple M3 ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- CPU แบบ 8-core (4 Performance Cores + 4 Efficiency Cores)
- GPU แบบ 9-core
- Neural Engine แบบ 16-core เพื่อรองรับการประมวลผล AI
- หน่วยความจำ RAM 8GB ช่วยให้การทำงานลื่นไหลขึ้น
ความจุและตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูล
Apple มีตัวเลือกความจุให้เลือกถึง 4 ขนาด ได้แก่:
- 128GB
- 256GB
- 512GB
- 1TB
กล้องและระบบถ่ายภาพ
- กล้องหลัง: ความละเอียด 12MP (ƒ/1.8)
- กล้องหน้า: ความละเอียด 12MP (ƒ/2.0) รองรับ Center Stage ซึ่งช่วยให้วิดีโอคอลมีมุมมองที่เหมาะสมตลอดเวลา
การเชื่อมต่อและพอร์ต
- Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3
- รุ่น Cellular รองรับ 5G (เฉพาะรุ่น Wi-Fi + Cellular)
- พอร์ต USB-C (รองรับ Thunderbolt 4)
รองรับอุปกรณ์เสริม
- Apple Pencil Pro (รองรับคุณสมบัติใหม่ ๆ เช่น การบีบจับเพื่อเปลี่ยนเครื่องมือ)
- Magic Keyboard รองรับการพิมพ์แบบแล็ปท็อป
แนะนำการใช้งาน
iPad Air M3 เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและมืออาชีพที่ต้องการอุปกรณ์พกพาที่สามารถใช้ทำงานด้านกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ หรือทำงานเอกสารได้อย่างสะดวกสบาย หน้าจอขนาดใหญ่ทำให้การจดบันทึกและการสเก็ตช์ภาพเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ ประสิทธิภาพของชิป M3 ยังช่วยให้สามารถใช้แอปพลิเคชันหนักๆ เช่น Adobe Photoshop และ Final Cut Pro ได้อย่างราบรื่น
แอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับ iPad Air M3
- การจดบันทึก: GoodNotes, Notability
- งานออกแบบ: Procreate, Affinity Designer
- การตัดต่อวิดีโอ: LumaFusion, Final Cut Pro
- การทำงานเอกสาร: Microsoft Office, Google Docs
- การศึกษา: Duolingo, Khan Academy
การเปรียบเทียบกับ iPad Air รุ่นก่อนหน้า
คุณสมบัติiPad Air 6 (M2)iPad Air 7 (M3)ชิปประมวลผลM2M3หน้าจอ10.9 นิ้ว11 และ 13 นิ้วพอร์ตUSB-CUSB-C (Thunderbolt 4)รองรับ 5Gมีมีกล้องหลัง12MP12MP (อัปเกรดเซ็นเซอร์)
ราคาล่าสุดของ iPad Air M3 ในประเทศไทย
รุ่น 11 นิ้ว
- Wi-Fi:
- 128GB: ฿21,900
- 256GB: ฿25,900
- 512GB: ฿32,900
- 1TB: ฿39,900
- Wi-Fi + Cellular:
- 128GB: ฿27,900
- 256GB: ฿31,900
- 512GB: ฿38,900
- 1TB: ฿45,900
รุ่น 13 นิ้ว
- Wi-Fi:
- 128GB: ฿28,900
- 256GB: ฿31,900
- 512GB: ฿38,900
- 1TB: ฿45,900
- Wi-Fi + Cellular:
- 128GB: ฿34,900
- 256GB: ฿37,900
- 512GB: ฿44,900
- 1TB: ฿51,900
บทสรุป
iPad Air M3 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตทรงพลังในราคาที่ไม่สูงเท่ากับ iPad Pro ด้วยชิป M3, จอภาพ Liquid Retina, และรองรับ Apple Pencil Pro ทำให้เหมาะสำหรับการทำงานสร้างสรรค์และความบันเทิง หากคุณกำลังมองหาแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์ทั้งการเรียน การทำงาน และการเล่นเกม iPad Air M3 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ