หลังจากที่ Tesla Thailand นั้นได้เปิด Supercharger ในไทยครบ 8 แห่ง ตอนนี้ก็มีข่าวและประกาศค่าใช้จ่ายในการจอดรถค้างในช่องชาร์จหรือ Idle Fees ออกมาแล้วนะครับ โดยหลักคือ ถ้ารถชาร์จเต็มแล้ว 100% แล้วไม่ยอมออกจากช่องชาร์จ Tesla จะทำการเก็บเงินตามนาทีที่จอดค้างไว้ครับ
Tesla Supercharger มีค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง
1. ค่าใช้จ่ายในการชาร์จ :
ประเทศไทยยังไม่เก็บค่าบริการ ที่ตทป. จะอยู่ราว ๆ 10 บาทต่อ 1 หน่วย ครับ (รอประกาศอีกที ตอนนี้ฟรีไปก่อนครับ)
2. ค่าใช้จ่ายในการจอดค้างในช่องชาร์จ เมื่อชาร์จเต็ม 100% แล้ว
ค่าใช้จ่ายตรงนี้จะเริ่มนับเมื่อรถของเราชาร์จเต็ม 100% แล้ว และยังไม่ได้เลื่อนรถออกจากช่องชาร์จภายใน 5 นาทีหลังชาร์จเต็ม ตรงส่วนนี้ Tesla บอกไว้ว่า หลักการของ Supercharger คือ “ต้องการมอบประสบการณ์การเดินทางบนท้องถนนที่ราบรื่นและสนุกสนาน ดังนั้น เราจึงเข้าใจดีว่าอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดเมื่อไปถึงสถานีแล้วพบว่ารถที่ชาร์จเต็มแล้วจอดอยู่เต็มพื้นที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับเจ้าของรถทุกคน เราจึงนำค่าธรรมเนียมการจอดค้างในช่องจอดสำหรับชาร์จมาใช้ทั่วทั้งฟลีทซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความพร้อมใช้งานของ Supercharger” ครับ
เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายนั้นคอนข้างโหดอยู่คือ ถ้าคุณชาร์จเต็มแล้วไม่เลื่อนภายใน 5 นาที แล้วสถานีชาร์จว่างน้อยกว่า 50% คุณจะโดนเก็บเงินนาทีล่ะ 12 บาท/นาที แต่ถ้าช่องชาร์จเต็ม 100% คุณจะโดนเก็บเงิน 24 บาท/นาที
พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าชาร์จ Supercharger จน 100% แล้วไม่เลื่อนรถภายใน 5 นาทีหลังชาร์จ แล้วสมมติว่าจอด 1 ชั่วโมง 5 นาที
-
กรณีช่องชาร์จเหลือมากกว่า 50% ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ : 0 บาท
-
กรณีช่องชาร์จเหลือน้อยกว่า 50% ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ : 720 บาท
-
กรณีช่องชาร์จเหลือเต็ม 100% ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ : 1,440 บาท
(ทั้ง 3 กรณีด้านบนยังไม่รวมค่าชาร์จไฟ)
ซึ่งการตัดเงิน Tesla ก็จะตัดตามบัตรเครดิตที่ผูกไว้ตอนจองรถนั่นเองครับ
อ้างอิงประกาศจาก : https://www.tesla.com/th_th/support/charging/supercharger/idle-fee
